วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

การกรวดน้ำ สำคัญแค่ไหน




ความหมาย .- คำว่า "กรวดน้ำ" นี้ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้คำจำกัดความไว้ว่า
"แผ่ส่วนบุญด้วยวิธีหลั่งน้ำ"

การกรวดน้ำ คือ การตั้งจิตใจให้แน่วแน่ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู่ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยรินน้ำเป็นเครื่องหมาย

ปัญหาชวนคิด .-


๑.ทำไมจึงต้องกรวดน้ำหลังเวลาทำบุญ แล้วจะกรวดก่อนไม่ได้หรือ ?
ตอบ.-ปัจจุบันนิยมกรวดน้ำหลังจากทำบุญถวายทานเสร็จแล้ว เพื่อประสงค์จะทำเจตนาของตนให้บริสุทธิ์ทั้ง ๓ กาล คือ ๑.ในกาลก่อนให้ ๒. เจตนาขณะให้ ๓.เจตนาหลังจากให้ทานแล้ว

๒.ทำไมจึงเทน้ำกรวดให้ไหลติดต่อกัน ไม่ให้ขาดสาย ?
ตอบ.-ความประสงค์เพื่อให้กุศลที่อุทิศไปให้ผู้ล่วงลับไปแล้วได้รับไม่ขาดระยะ ให้ติดต่อกันไป และความ

ปรารถนาก็จะได้ไม่ขาดระยะ เป็นไปโดยราบรื่น เหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปสู่มหาสมุทรสาคร ย่อมไหลเป็นสายไม่ขาดระยะ หากเทน้ำให้หยดติ๋ง ๆ ขาดระยะ เปรียบเหมือนบุญกุศลที่จะได้ก็จะขาดระยะ ความปรารถนาก็จะขาดระยะ

๓.ทำไมจึงต้องกรวดน้ำ จะไม่กรวดได้หรือไม่ ?
ตอบ.-การกรวดน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามเอาไว้ อีกทั้งเป็นการแสดงถึงความยินดีในการบำเพ็ญกุศลที่ได้ทำไว้แล้ว และเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อื่น
จะกรวดน้ำโดยไม่ใช้น้ำหรือที่เรียกกันว่า กรวดแห้ง ก็ได้ คือบุญสำเร็จด้วยการแผ่ส่วนบุญ ฯ

๔.ทำบุญแล้วไม่กรวดน้ำจะได้อานิสงส์หรือไม่ ?
ตอบ.-ได้ เพราะผู้ทำบุญก็ต้องได้บุญ ทำความดีก็ต้องได้ดี บุญต้องเป็นของผู้ทำบุญตลอดไป ไม่ไปไหนเสีย

๕.เมื่อกรวดน้ำเสร็จ ทำไมต้องไปเทน้ำไว้ที่โคนต้นไม้?
ตอบ. เพื่อให้พระแม่ธรณีและโลกทั้ง๓เป็นพยานในการแผ่ส่วนกุศล และน้ำมีประโยชน์กับต้นไม้เป็นการปลูกฝังให้รักษ์ต้นไม้ด้วย

คำกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร(แบบย่อ)
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศล จากการทำบุญ............นี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ทั้งที่เจตนาและไม่ได้เจตนา ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ หากทนทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ มีความสุขยิ่งขึ้นไป แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้า ด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเฌอญ


คำกรวดน้ำให้เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (แบบย่อ)
พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาละ สังฆัง นิพพานัง โหตุฯ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าได้........ขออุทิศแด่ พระภูมิเจ้าที่ นางพระธรณี นางพระคงคา พระยายมราช ทั้งท้าวจัตุโลกะบาล คุณพระศรีรัตนตรัย และเทพยดา ตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยมยักษ์ คนธรรพ์ นาคา พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าอุทิศให้ไปนี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยถึงพระนิพพานในปัจจุบัน และอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญฯ

คำกรวดน้ำให้ญาติ (แบบย่อ)
อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาติโยฯ

ขอผลบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุขกาย สุขใจเถิดฯ

เครดิต : ท่านอาจารย์ ว.วชิรเมธี

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

ทิศในการตั้งหิ้งพระ




ทิศทางการตั้งหิ้งพระบูชา

เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน  จึงมักมีหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ตามกำลังศรัทธา และขนาดพื้นที่ของบ้าน
เมื่อคิดจะตั้งหิ้งพระ อย่าละเลยที่จะศึกษาตำราฮวงจุ้ยเสียก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วทิศที่นิยม ในการตั้งพระได้แก่ทิศเหนือ และทิศตะวันออก จะเป็นทิศที่ดี ที่จะเสริมดวงชะตา และนำมาโชคลาภ มาสู่ผู้อยู่อาศัย ส่วนทิศที่ไม่ดี เป็นทิศอัปมงคล ทิศกาลกิณี คือ ทิศใต้และทิศตะวันตก

ก่อนตั้งหิ้งพระจึงควรดูทิศทาง ดังต่อไปนี้

ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ซึ่งเป็นทิศเศรษฐี จะประกอบการงานทำนาค้าขาย ใด ๆ ก็จะเจริญร่ำรวยยิ่ง ๆ เป็นที่หนึ่ง
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศบูรพา (ตะวันออก)
ซึ่งเป็นทิศราชา จะประกอบการงานใด ๆ ก็จะเจริญ ใหญ่โต สมความตั้งใจทุกประการ
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
ซซึ่งเป็นทิศปฐม ท่านว่าไม่สู้ดี ทำอะไรไม่ค่อยเจริญ ลาภผลตกต่ำพอมีพอใช้
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศทักษิณ (ทิศใต้)
ซึ่งเป็นทิศจัณฑาล ประกอบการงานอันใด แสนยาก ลำบาก ผลประโยชน์ลงทุนไปไม่ค่อยคุ้มค่า
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
ซึ่งเป็นทิศวิปะฏิสาร จะประกอบการงานอันใด มีแต่ ความเดือดร้อนยุ่งยากมาสู่ครอบครัวตลอด เพื่อบ้านเรือนเคียง
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศประจิม (ตะวันตก)
เป็นทิศกาลกิณี จะทำงานสิ่งใดก็เกิดลังงเลใจ ไม่เป็นมงคล ระวังภัยจะเกิดกับตนร้ายแรง ถึงอัตตะวินิบาตกรรม
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
ซึ่งเป็นทิศอุทธัจจะ จะทำงานสิ่งใด ผลงานก็ไม่แน่นอนจับจดรวนเรไม่ได้ผล
· ถ้าตั้งพระพักตร์หันไปสู่ ทิศอุดร (ทิศเหนือ)
ซึ่งเป็นทิศมัชฌิมาปฏิปทา จะทำงานใด ๆ ผลงานจะอยู่ในเกณฑ์พอปานกลาง ไม่ดีไม่ชั่ว
**นอกจากนี้ คนเกิดแต่ละปีก็มีทิศต้องห้ามในการตั้งพระด้วย
เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือเด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวง จนถึงขั้นเสียชีวิต
เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเด็ดขาด จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน
เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเด็ดขาด จะส่งผลให้ผู้หญิง และสมาชิกในครอบครัว เกิดอันตรายได้
เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออกเด็ดขาด จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง คนในบ้านจะเสียชีวิต
เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเด็ดขาด จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหาย ทั้งชายและหญิง
เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัว มีความยุ่งยากที่สุด จนหาความสงบสุขไม่ได้
เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน
เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝันได้
เจ้าของบ้านเกิดปีวอก ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว
เจ้าของบ้านเกิดปีระกา ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะผลให้ทุกข์โศกมาเยือน ครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ
เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเด็ดขาด จะส่งผลร้าย ให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้
เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ถวายสังฆทานด้วยอะไรดี?




การทำบุญถวายสังฆทาน นั้นได้อานิสงส์ใหญ่มาก หากเราทำถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นสังฆทานที่สร้างกุศลเพื่อตนเอง หรือสังฆทานอุทิศให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว

ให้เราตั้งใจจัดหาซื้อของ ตามปัจจัยที่เรามี อย่าให้เราเดือดร้อนเพราะทำบุญ ให้ทำตามกำลัง เมื่อได้ของครบเราก็หาวัดที่ท่านปฏิบัติหน่อย หรือวัดที่เราศรัทธา ก็ให้ทำสังฆทานประกอบด้วยของดังนี้ (ควรไปก่อนเพล โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีของสดด้วย)

1. อาหารสด
ควรมีอาหารประมาณ 3ประเภท เช่น แกงจืด ผัดผัก ของทอด ฯลฯ
หากทำสังฆทานอุทิศให้ทำอาหารที่คนตายชอบก็ได้ หากทำเพื่อตนเองสร้างบุญก็เอาสิ่งที่เราทานเราชอบ (อานิสงส์ที่เราจะได้รับ คือมีร่างกายบริบูรณ์ไปไหนมาไหน ไม่อดไม่อยาก อานิสงส์ที่ผีได้รับ คือมีร่างกายดีขึ้น เปลี่ยนกายทิพย์มีกำลังมากขึ้น มีความสุขขึ้น)

2. อาหารแห้ง
เช่น เครื่องกระป๋อง ข้าวสาร (อานิสงส์ที่เราจะได้รับเหมือนข้อหนึ่ง)

3.น้ำสะอาด
(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือมีน้ำดื่ม ไม่ขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้หากเรายังไม่ตาย แต่ผีได้รับคือโมทนาแล้วจะได้สระโบกขรณีสวยงามน่ารื่นรมย์มาก กินดื่มได้)

4.รองเท้า 1 คู่

(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือ จะมีสัมผัสที่ดีขึ้น เท้าเดินเหินสะดวก ตายไปมียานพาหนะทิพย์สะดวกสบาย ผีที่โมทนาได้แบบกัน) การให้ยานพาหนะถือว่าให้ความสุข แค่รองเท้า 1 คู่ ญาติเราที่ตายโมทนาเขาจะมีความสุขขึ้นมากๆ

5.จีวร อังสะ สบง รัดประคต
หากเราทรัพย์น้อย ให้ทำบุญผ้าเช้ดหน้า 1 ผืนก็ได้ (อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือไม่ขาดแคลน เครื่องนุ่งห่ม แล้วก็ใส่อะไรก็สบายดูดี ผิวพรรณงดงาม ผีได้รับคือมีเสื้อผ้าเครื่องทรงทิพย์ )

6.ยารักษาโรค
(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือ โรคที่เราเป็นจะบรรเทาลง ผีโมทนาก็จะมีร่างกายที่ดีขึ้น)

7.เสื่อสาด เครื่องปูลาด อาสนะสงฆ์
(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือ ฐานะจะไม่ตกต่ำ อย่างน้อยเท่าเดิม ฐานะทรงตัว เกิดชาติหน้าสูงศักดิ์ และหนุนเรื่องการทำภาวนาจะได้ผลไว เข้าสมาธิได้ไว หากผีโมทนาจะได้ความสุขคือมีเครื่องปูลาดทิพย์สวยงาม และมีที่ประทับดีขึ้น)

8.หนังสือมนต์พิธีแปล
(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือสติปัญญา ที่เพิ่มขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม ช่วยสืบต่อพระศาสนาด้วย ผีจะได้มีสติปัญญาเพิ่มขึ้นปฏิบัติธรรมต่อในภพภูมิของเขาได้ผลไว)

9.พระพุทธรูปปางวันเกิดเรา


หรือคนที่เราจะอุทิศให้ ขนาดตั้งแต่ 7 นิ้วขึ้นไป(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคือสุขภาพกายเราจะดีขึ้นทรงตัว รูปงามขึ้น มีความเด่นท่ามกลางฝูงชน มีเสน่ห์ขึ้น ผีที่โมทนาจะได้แสงสว่างกายทิพย์ที่สวยงามขึ้น ซึ่งในเทวโลกเขาดูกันที่รัศมีกาย ใครรัศมีสวยมีบุญมาก)

10.ร่ม
(อานิสงส์ที่เราจะได้รับคืออยู่ไหนก็ไม่เดือดร้อน สุขสบาย มีที่พึ่งร่มเย็น ผีโมทนาแล้วได้ ร่มหรือที่พักพิง)

11.อื่น ๆ เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างห้องน้ำ ไม้ถูพื้น แปรงล้างห้องน้ำ ไม้กวาด (อานิสงส์ที่เราจะได้รับ ผิวพรรณผู้ที่ไม่สวยจะดีขึ้น นวลเนียนสวยขึ้น โรคที่เป็นจะทุเลาลง ไม้กวาดจะทำให้เราผิวงามพิเศษ เหมือนพระนางโรหิณี )

12.เงินสัก 100 บาท
ใส่ซองเขียนด้วยว่า ใช้ในกิจสงฆ์ส่วนรวมได้หมดทุกอย่าง (หากท่านนำไปใช้ ซื้อข้าวของมาทำภัตตาหารให้พระเณรเราก็ได้บุญสังฆทาน หากท่านนำไปสร้างโบสถ์เราได้บุญวิหารทาน เงินส่วนนี้จึงสำคัญมาก จะหนุนให้เราได้ลาภลอย)


หากทำได้ครบตามนี้ทั้ง 12 ข้อ เราจะได้อานิสงส์มาก หากทำให้ผู้อื่น หรือผู้ล่วงลับ จะช่วยเขาได้มาก จากภพภูมิที่ลำบากจะสามารถเลื่อนภพภูมิขึ้นได้ แล้วเพรียบพร้อมไปด้วยทิพย์สมบัติ
หากทำให้ตนเองหรือครอบครัว จะหนุนดวงโชคลาภขึ้นมาก ทั้งทางโลกและทางธรรมจะคล่องตัวอย่างมาก

หมายเหตุ-
การถวายสังฆทาน เป็นการทำบุญที่คนไทยเชื่อกันว่า เป็นการทำทานที่ได้บุญมาก เพราะ สังฆทาน เป็นการถวายทานที่ไม่ระบุเฉพาะว่าเป็นพระสงฆ์รูปใด บอกพระสงฆ์ว่า ต้องการถวายสังฆทาน ท่านจะนิมนต์พระสงฆ์รูปใดมารับสังฆทานก็ได้ และท่านก็จะทำพิธีรับสังฆทาน หากกำหนดว่าจะถวายแก่พระรูปใดรูปหนึ่ง ทานนั้นก็ไม่เป็น สังฆทาน

ถ้าต้องการอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้แก่ผู้ใด ผู้ถวายทานก็มักจะบอก หรือเขียนชื่อ นามสกุล ให้แก่พระภิกษุ เพื่อท่านจะได้ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลไปยังผู้ที่บอกชื่อนั้น ๆ
หลังจากนั้นก็สวดบทถวายสังฆทาน และถวายของสังฆทานทั้งหมดให้แก่พระภิกษุ
สุดท้าย ผู้ถวายสังฆทานก็กรวดน้ำ แผ่ส่วนบุญกุศล เป็นอันเสร็จพิธีทำบุญถวายสังฆทาน

ที่มา :http://www.dhammakid.com/board/acaaaxeiaeeaaa/eno1-aeio1oeeiao-eoouei/

การบูชาพระเกจิและเทพ



การบูชาหิ้งพระพระพุทธรูปและการบูชาเทพ
 
ไม่ควรวางรวมหิ้งเดียวกัน หากเป็นโต๊ะหมู่บูชาก็ควรวางแยกโต๊ะและตั้งลดลั่นลงมาจากพระพุทธรูป มหาเทพที่คนไทยศรัทธาและนำมาบูชาโดยมาก ได้แก่


1.พระโพธิสัตว์กวนอิม
เจ้าแม่กวนอิมเป็นโพธิสัตว์ที่ชาวจีนและไทยนับถือมาก เป็นเทพที่มีเมตตา ช่วยให้พ้นทุกข์ ขอให้มีจิตบูชาที่ซื่อตรง พร้อมท่องชื่อท่านจะไ้ด้รับการคุ้มครอง วิธีที่ดีที่สุดที่จะขอพรจากท่านคือ การปฎิบัติธรรม สำรวมกาย วาจา ใจ
สิ่งที่นำมาถวาย น้ำสะอาด ดอกบัว อาหารเจ

คาถาบูชา นำโมไต๋ซื้อไต๋ปุย กิวโค่วกิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก (3จบ)

2.พระพิฆเนศ

องค์พระพิฆเนศได้ประพฤติตนเป็นมหาเทพที่เป็นแบบอย่างแห่งความดีงามและมีเมตตา
เป็นเทพที่ชาวฮินดูและอินเดียเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ช่วยขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง หากใครจะประกอบพิธี หรือทำกิจกรรมใดๆเช่นเปิดกิจการร้านค้า ให้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลและประสบความสำเร็จ

คาถาสวดบูชาพระพิฆเนศ ที่ใช้กันส่วนใหญ่ คือ "โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา" (๙ จบ)

สิ่งที่นำมาถวาย ธูปกำยาน น้ำเปล่า,นม,ขนมหวาน,ดอกไม้

3.พระปิยะมหาราช
เสด็จพ่อร.5 ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่บำเพ็ญประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองอย่างหาที่สุดไม่ได้ การขอพรหรือบนบาลท่าน ท่านจะช่วยให้คนขยันทำมาหากินเจริญก้าวหน้า เรื่องสุขภาพ เงินทอง เรื่องเรียน เป็นต้น วันที่เหมาะสมคือ วันอังคาร

สิ่งที่นำมาถวาย ดอกกุหลาบสีชมพู ซิกก้า บุหรี่ บรั่นดี ขนมหวาน ข้าวคลุกกะปิ

คาถาสวดแบบย่อ ตั้งนะโม 3 จบ
พระสยามินโท วะโรอิติ พุทธะสังมิ อิติอะระหัง สหัสสะกายัง วะรังพุทโธ นะโมพุทธายะ ( 3 จบ) อธิฐานขอพร.....ปิยะมะมะ นะโมพุทธายะ (3 จบ)

4.หลวงปู่ทวด
อภินิหารของท่านนั้นกล่าวกันว่าพิสดารยิ่งนักเป็นที่โจษขานกันมาถึงทุกวันนี้ว่า หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดห้วยมงคลเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก คุ้มครองแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ มีโชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากภัยทั้งปวง
สิ่งที่นำมาถวาย มะลิขาว ธูป9ดอก

คาถาสวด " นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา " ท่อง 3 จบ

5.พระเจ้าตากสินมหาราช
ทรงกอบกู้ชาติไทยจากพม่า เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 และทรงรวบรวมชาวไทยให้เป็นหนึ่งเดียวย้ายเมืองหลวงจากอยุธยา มาที่กรุงธนบุรี อนุสาวรีย์ของท่านอยู่ที่ วงเวียนใหญ่

ตั้งนะโม 3 จบแล้วท่อง
โอม สิโน ราชาเทวะ ชะยะ ตุภะวัง สัพเพศัตรู วินาส สันติ
โอม สิโน ราชา เทวะ นะมา มิหัง ถวายเครื่องสักการะ (3 เที่ยว)

สิ่งที่นำมาถวาย พวงมาลัยดาวเรือง ขนมเปี๊ยะ เครื่องเซ่นไหว้แบบจีน เช่น หมู เป็ด ไก่







หลักข้อห้ามในการตั้งหิ้งพระ




ขั้นพื้นฐานต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้งก่อน เจ้าบ้านเกิดปีอะไร และเป็นมุมสงบที่สุดเท่าที่จะหาได้ ไม่พลุกพล่าน และคำนึงถึงหลัก ดังนี้

ห้าม ตั้งหิ้งบูชาที่หันหน้าพระออกทางประตูโดยตรง

ห้าม ตั้งหิ้งบูชาไว้เหนือขอบประตูโดยเด็ดขาด

ห้าม ตั้งหิ้งบูชาไว้ตรงข้ามประตูห้องส้วม, ห้องครัว

ห้าม ตั้งหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน โดยเฉพาะที่มีชายหญิงอยู่เป็นคู่

ห้าม ตั้งหิ้งพระต่ำกว่าหัวศีรษะของคน

ห้าม ตั้งหิ้งบูชาไว้ใต้บันได